Text Size
Friday, April 26, 2024
Top Tab Content
015copyright

การละเมิดลิขสิทธิ์  กรรมของชนชาติที่ทุกคนมองข้าม 

            ปัจจุบันนี้ได้มีการละเมิดลิขสิทธิ์มากมาย  หลากหลาย ทั้งเพลง หนัง ซอฟต์แวร์ คอมพิวเตอร์ ภาพถ่าย เกมส์ สินค้าแฟชั่น ฯลฯ  ซึ่งทางผู้เขียนเห็นแล้วก็ค่อนข้างเป็นห่วง เพราะปัจจุบันนี้ มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างมาก มีผลให้การละเมิดลิขสิทธิ์สามารถทำกันอย่างง่ายดายมาก   ขอยกตัวอย่างที่เห็นภาพชัดๆก็คือ มีใครสักคนเอาไฟล์ภาพยนตร์ หรือซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ไปลงในเว็บไซต์  เพื่อให้คนทั่วไปดาวน์โหลดกัน  คนที่เข้าเว็บไซต์นั้นก็แค่คลิกไปดาวน์โหลดไฟล์นั้นอย่างง่ายดายมาก
            การละเมิดลิขสิทธิ์เริ่มทำกันอย่างมากมายและขยายตัวไปตามความเจริญด้านเทคโนโลยี  ยิ่งมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเยอะมากเท่าไหร่  การละเมิดลิขสิทธิ์ก็จะเยอะตามไปด้วย  การเปิดเว็บไซต์เกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์ผุดขึ้นมากมายเป็นดอกเห็ด
            จิตสำนึกของผู้คนก็น้อยลง ผู้คนในสังคมก็มองข้าม ไม่ได้ตระหนักหรือสำนึกถึงสิ่งที่ตนได้กระทำ  บางคนไม่ได้สำนึกแม้สักเล็กน้อยว่าสิ่งที่ตนกระทำอยู่เป็นความผิด  ราคาคอมพิวเตอร์สมัยนี้ไม่ได้แพงมากนัก และมีแนวโน้มว่าจะถูกลงไปเรื่อยๆ   คอมพิวเตอร์เริ่มกลายเป็นสินค้าทั่วไปที่มีทุกห้อง ทุกบ้าน สมมติว่าแต่ละคนไม่ได้ตระหนักถึงการละเมิดลิขสิทธิ์เป็นสิ่งผิด  ลองนึกดูว่าแต่ละห้องที่อยู่ในบ้านมีคอมพิวเตอร์  บ้านหนึ่งก็จะมีคอมฯหลายเครื่อง  แต่ละบ้านรวมกันเป็นหมู่บ้าน  แต่ละหมู่บ้านรวมกันเป็นตำบล  อำเภอ จังหวัด ภาค ประเทศ ทวีป 
            อีกทั้งความบ่อยในการละเมิดลิขสิทธิ์ เริ่มทำจนเป็นอาจิณกรรม ทำจนชินจนไม่ได้คิดว่านี่คือความผิด  ทั้งปริมาณทั้งความบ่อยรวมกัน  ถ้าสะสมไปเรื่อยๆ จะกลายเป็นปริมาณที่ใหญ่มาก  กลายเป็นกรรมรวมของชนชาติ
            การขยายตัวของคอมพิวเตอร์เริ่มขึ้นอย่างมากและมีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงบางคนมีคอมพิวเตอร์หลายเครื่อง  ซึ่งสมัยก่อนเมื่อ ๒๐ ปีที่แล้ว คอมพิวเตอร์ยังไม่เป็นที่แพร่หลาย แต่ละบ้านยังไม่มีคอมพิวเตอร์ใช้เนื่องจากเป็นสินค้าที่ราคาสูงมาก  ถ้าจำไม่ผิดก็ตั้งแต่ปี ๒๕๓๐  ก่อนหน้านั้นแต่ละบ้านยังไม่ค่อยมีคอมพิวเตอร์ใช้เท่าไหร่  แสดงว่าการสร้างกรรมลักษณะละเมิดลิขสิทธิ์(ที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์) ยังมีไม่นานเท่าไหร่  ถ้าแต่ละคนช่วยกันรณรงค์ไม่ให้มีการละเมิดลิขสิทธิ์  ช่วยกันตักเตือนกัน ป้องกัน ลด เลิกในการสร้างอกุศลกรรมประเภทนี้  เพื่อไม่ให้กรรมขยายตัว สะสมไปเรื่อยๆ จะเป็นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ช่วยสังคม และช่วยชาติไปในตัว

อันตรายอย่างมากของการละเมิดลิขสิทธิ์ในส่วนของวัด
            สิ่งที่น่าตกใจอีกอย่างหนึ่งก็คือ  ในบางสถานที่เช่นในวัดก็มีคอมพิวเตอร์ไว้ใช้งาน  ในวัดต้องเป็นสถานที่ ที่จะต้องปลอดจากอกุศลทั้งหลาย กลับมีคอมพิวเตอร์ที่มีโปรแกรมละเมิดลิขสิทธิ์  อาจจะเป็นเพราะความไม่รู้  การมองข้าม หรือเพราะว่ามีญาติโยมนำมาถวาย  ซึ่งอาจจะยังเป็นเหตุให้คนที่อาศัยที่อยู่ในวัดและมาใช้คอมพิวเตอร์เครื่องนั้น มีศีลที่ไม่บริสุทธิ์ 
            เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สุ่มเสี่ยงอย่างมากเพราะเกี่ยวพันกับอาบัติปาราชิกในข้อที่ ๒ ว่าด้วยการ ถือเอาทรัพย์ที่เจ้าของไม่ได้ให้ ราคา ๕ มาสก มาเป็นของตน  เมื่อวัดใดที่มีความจำเป็นที่ต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์  ก็จะต้องดำเนินการให้ถูกต้อง
            ดังนั้นเมื่อใครก็ตาม จะนำคอมพิวเตอร์มาถวายวัดก็ควรจะซื้อโปรแกรมให้ถูกลิขสิทธิ์เพื่อให้วัตถุทานบริสุทธิ์  หรือไม่ก็ถวายปัจจัยโดยใช้สิทธิ์ทางวัดซื้อซอฟต์แวร์เพราะทางวัดเป็นองค์กรที่สามารถซื้อซอฟต์แวร์ได้ในราคาพิเศษ
(ส่วนทางวัดที่มีคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว สามารถแก้ปัญหานี้ได้ ด้วยการซื้อลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ที่ถูกกฎหมายได้ในราคาพิเศษ โดยไปติดต่อเจ้าของ หรือผู้แทนจำหน่ายซอฟต์แวร์นั้น   ราคาที่ทางวัดหรือองค์กรการกุศลนั้นจะได้ในราคาที่พิเศษมาก)

            เมื่อมีคนคิด แล้วสร้างสรรค์ผลงาน ลงทุนลงแรงลงความคิดลงไปเพื่อหวังผลประโยชน์ทางการค้า  สินค้า หรือบริการเหล่านั้น  มีสายใยกรรม ติดไปกับวัตถุ ภาพ เสียง ตราสัญลักษณ์ เหล่านั้น  เมื่อมีอีกคนไปใช้ประโยชน์ หรือไปเสพ โดยที่สิ่งนั้นได้มีการละเมิดลิขสิทธิ์(ทำซ้ำ ดัดแปลง เผยแพร่) กรรมก็เกิดขึ้นแล้วผ่านทางอายตนะทั้ง๖ 
            ขอยกตัวอย่าง เช่นธุรกิจฟุตบอล แบ่งออกเป็น องค์กรสมาคม สโมสร ผู้เล่น   ถ้าผู้เล่น เล่นบอลด้วยความเหนื่อยยาก  คนดูจะต้องจ่ายผลประโยชน์ให้ผู้เล่น โดยจ่ายทางอ้อมผ่านทางเจ้าของลิขสิทธิ์ที่นำมาถ่ายทอด  เจ้าของลิขสิทธิ์จะไปจ่ายให้องค์กร  องค์กรจ่ายให้สโมสร  สโมสรจ่ายให้ผู้เล่น   หลักการก็คือเมื่อมีการรับชมก็จะต้องมีการจ่ายผลประโยชน์  ถ้าคนดูได้เห็นภาพ ทันทีที่คนนั้นเห็นภาพ โดยมีเจตนาที่จะเสพ  โดยผ่านสื่อที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์  โดยผู้เสพไม่ได้จ่ายผลประโยชน์ในจุดนี้  หนี้กรรมจะเกิดขึ้นในทันที  โดยที่สักวันก็ต้องไปชดใช้เขาอยู่ดี

            ส่วนธุรกิจเกี่ยวกับซอฟต์แวร์  แต่ละซอฟต์แวร์ล้วนมีการลงทุน ลงแรงลงความคิด ถ้าเจ้าของผลประโยชน์หวังผลทางการค้าใน ซอฟต์แวร์นั้น  ไม่ว่าแผ่นซอฟต์แวร์นั้นจะไปอยู่ที่ไหน ล้วนจะมีสายโยงใยกรรมทั้งสิ้น  ทันทีเมื่อเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อใช้ประโยชน์ในซอฟต์แวร์นั้นโดยที่ซอฟต์แวร์นั้นเป็นซอฟต์แวร์ที่ละเมิดลิขสิทธิ์   การสร้างอกุศลกรรมจะเกิดขึ้นทันที 

ผลของกรรม
            การกระทำเหล่านี้เป็นการละเมิดศีลข้อที่ ๒   ผลกรรมก็มีผลโดยตรงเกี่ยวกับทรัพย์สินเงินทอง  อีกทั้งจะส่งผลขัดขวางในด้านความเจริญของผู้ที่มีส่วนในการละเมิดลิขสิทธิ์นั้น
            กรรมของผู้เผยแพร่  กรรมของผู้ละเมิดลิขสิทธิ์  ล้วนแล้วแต่มีผลหนักเบาแตกต่างกันออกไป 

ทางออกของปัญหา
            เลิกเข้าไปยุ่งเกี่ยวในทุกส่วนของกระบวนการ  ให้เลิกละเมิดลิขสิทธิ์ เลิกเผยแพร่โปรแกรมที่ละเมิดลิขสิทธิ์  ส่วนผู้ใช้ก็เลิกใช้ของที่ละเมิดลิขสิทธิ์
            ซอฟต์แวร์  ให้ใช้โปรแกรมฟรีแวร์ หรือประเภท open source  แทนโปรแกรมที่ละเมิดลิขสิทธิ์
            โปรแกรมประเภท OS  มีโปรแกรม Linux  สามารถใช้แทนระบบปฏิบัติการอื่นๆ
            โปรแกรมที่ใช้งาน Office ประเภท word , spreadsheet  สามารถใช้โปรแกรม Open Office แทน (ดาวน์โหลดได้ที่ http://download.openoffice.org/index.html )
            โปรแกรมจัดการภาพถ่าย  ก็สามารถใช้โปรแกรม Gimp    
            การชมภาพยนตร์ ให้ดูตามโรงหนัง หรือรอให้เช่าดูทาง vcd
            เสื้อผ้า กระเป๋า นาฬิกา  (สินค้าแฟชั่นทุกชนิด)  ของแบรนด์เนมราคาแพงมาก  ก็ให้ซื้อของแท้มือสอง
            เป็นต้น
            (เมื่อจะบริโภคอะไรก็ตาม  ให้มีสติพิจารณาก่อนที่จะบริโภค หรือเสพสิ่งต่างๆ)   

อย่าดูหมิ่นกรรมชั่วว่านิดหน่อย
            อย่ามองข้ามสิ่งที่เป็นอกุศลเล็กน้อย  เพราะจะเป็นการปูพื้นฐานในการสร้างอกุศลกรรมที่ใหญ่ๆขึ้นไป  และเมื่ออกุศลเล็กน้อยสะสมไปเรื่อยๆก็จะเป็นขนาดใหญ่ขึ้นมาได้ 
ดังที่พระศาสดาตรัสไว้ว่า   
             " อันภิกษุทั้งหลายทำอย่างนั้นย่อมไม่ควร,  
               ขึ้นชื่อว่าบาปกรรม   ใครๆ ไม่ควรดูหมิ่นว่า   นิดหน่อย;
               เหมือนอย่างว่า  ภาชนะที่เขาเปิดปากตั้งไว้กลางแจ้ง   เมื่อฝนตกอยู่    
               ไม่เต็มได้ด้วยหยาดน้ำหยาดเดียวโดยแท้,    ถึงกระนั้น  เมื่อฝนตกอยู่บ่อยๆ
               ภาชนะนั้นย่อมเต็มได้เเน่ๆ ฉันใด  บุคคลผู้ทำบาปกรรมอยู่  ย่อมทำกอง
               บาปให้ใหญ่โตขึ้นโดยลำดับได้อย่างแน่ ๆ ฉันนั้นเหมือนกัน "    ดังนี้แล้ว
               เมื่อจะทรงสืบอนุสนธิแสดงธรรม  จึงตรัสพระคาถานี้ว่า
                            มาวมญฺเญถ  ปาปสฺส                 น  มตฺตํ  อาคมิสฺสติ
                            อุทพินฺทุนิปาเตน                       อุทกุมฺโภปิ   ปูรติ
                            อาปูรติ  พาโล  ปาปสฺส              โถกํ  โถกํปิ อาจินํ
                         " บุคคลไม่ควรดูหมิ่นบาปว่า          บาปมีประมาณ
                           น้อยจักไม่มาถึง                          แม้หม้อน้ำยังเต็มด้วยหยาดน้ำที่
                           ตกลง (ทีละหยาดๆ)ได้ฉันใด,     ชนพาลเมื่อสั่งสม
                           บาปแม้ทีละน้อยๆ                       ย่อมเต็มด้วยบาปได้ ฉันนั้น  "

(ที่มา พระไตรปิฎกและอรรถกถาไทย ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย จำนวน ๙๑ เล่ม
เล่มที่ ๔๒ พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หน้าที่ ๒๔)



มีผู้อ่านจำนวน : 2567 ครั้ง


backbutton
gototop
back2home_style3 go2contentstore_style03
Bottom Tab Content

Who's Online

We have 4 guests and no members online