“กฐิน” ปีพ.ศ.๒๕๔๘ ใกล้ถึงช่วง “กฐิน” ปี 48 แล้ว อยากจะขอเชิญชวนทุกท่านมาศึกษา กฐิน ให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัย กันก่อน เพราะถ้าทำถูกต้องแล้วจะทำให้ได้อานิสงส์ กฐิน ได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งผู้ถวายและพระผู้รับกฐิน แต่ถ้าทำผิดแล้วแทนที่จะได้อานิสงส์กฐิน กลับไม่ได้หรือได้น้อยลงไป หรือแย่ที่สุดอาจจะทำให้เกิดโทษอย่างมากก็เป็นไปได้ กฐิน เป็น ผ้าพิเศษ ในทางพระวินัยใช้ชื่อเรียกเป็นสังฆกรรมอย่างหนึ่ง ที่อยู่ในช่วงเวลา 1 เดือน หลังออกพรรษา ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพุทธานุญาต ให้ภิกษุพร้อมใจกันมอบผ้าผืนใดผืนหนึ่งใน 3 ผืน ให้แก่ภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง ผู้มีคุณสมบัติที่สมควรแก่การรับผ้ากฐิน และภิกษุผู้รับผ้ากฐินเป็นผู้ดำเนินการกรานกฐินในท่ามกลางระหว่างสงฆ์ หลังจากนั้นจะต้องประกาศให้คณะสงฆ์รับทราบเพื่ออนุโมทนา เมื่อคณะสงฆ์อนุโมทนาแล้ว พระภิกษุองค์ครองจึงจะมีสิทธิในผ้ากฐินผืนนั้น และพระภิกษุในวัดทุกรูปมีสิทธิได้รับอานิสงส์กฐิน 5 ประการ ประเด็นที่ควรระลึกถึง กฐิน คือผ้าพิเศษที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงพุทธานุญาตเฉพาะ กฐินไม่ใช่เงิน หรือสิ่งของต่าง ๆ มีช่วงเวลาที่กำหนดแน่นอนหลังออกพรรษา มีระยะเวลาเพียง 1 เดือน (1 ค่ำเดือน 11 – 15 ค่ำเดือน 12) ถ้าทำกฐินนอกช่วงเวลาก็จะไม่ใช่กฐิน กฐินเป็นพระพุทธานุญาตด้วยพระองค์เอง ไม่มีผู้ใดมาทูลขอ พุทธประสงค์เรื่องกฐิน คือให้พระภิกษุได้พักผ่อน พอพื้นดินแห้งสมควรแก่การเดินทาง, เพื่อสงเคราะห์ ให้พระภิกษุได้เปลี่ยนผ้าครอง, เพื่อให้เกิดความสามัคคีในหมู่สงฆ์ ได้ช่วยกันตัดเย็บจีวรเป็นผ้ากฐิน, เพื่อให้พระภิกษุได้รับอานิสงส์ 5 ประการ ผ้ากฐินตามพระวินัยควรเป็น “ผ้าขาว” ทำจากเปลือกไม้ ฝ้าย ไหม ป่าน ขนสัตว์ หรือผ้าผสมกัน ไม่ว่าจะเป็นผ้าใหม่ ผ้าเทียมใหม่ ผ้าเก่า ผ้าเปื้อนฝุ่น ผ้าทิ้งตามตลาด อย่างใดอย่างหนึ่งก็ใช้ได้ (ปัจจุบันใช้จีวรสำเร็จรูปแต่ต้องตัดเย็บให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัย) ผ้า ไตร 3 ผืน ไม่ว่าจะเป็นผืนใดผืนหนึ่งจะต้องเป็นผ้าขัณฑ์ (ขัณฑ์ = ตอน ท่อน ส่วน ชิ้น เช่น จีวรมีขัณฑ์ 5 คือมีผ้า 5 ชิ้น มาเย็บติดกันเป็นผ้าผืนเดียวกัน) ถ้าวัดไหนที่ไม่มีผู้ใดมาถวายผ้า กฐิน แก่ภิกษุในวัดเพื่อมอบให้แก่ภิกษุรูปใดรูปหนึ่งในวัดที่มีคุณสมบัติตามกำหนด ภิกษุในวัดทั้งหมดก็จะไม่ได้อานิสงส์กฐิน 5 ประการ ภิกษุผู้ครองผ้า กฐิน ควรเป็นภิกษุผู้ได้รับการอุปสมบทด้วย “ญัตติจตุตถกรรม” โดยถูกต้องตามพระธรรมวินัย, ต้องเป็นผู้รู้ธรรม 8 ประการ, ต้องเป็นพระภิกษุไม่ต้องโทษ ไม่ต้องอาบัติ วัดใดหากภิกษุในวัดเดียว กันทะเลาะกัน ยังไม่คืนดีต่อกัน ยังโกรธกัน ไม่พูดดีต่อกัน เป็นสังฆราชี วัดนั้นไม่มีสิทธิ์รับกฐิน เพราะจะเป็นกฐินเดาะ ไม่ได้อานิสงส์กฐิน วัดใดมีพระภิกษุไม่ครบ 5 รูป จะไม่มีสิทธิ์รับผ้ากฐิน คือต้องมีพระภิกษุในวัดเดียวกันครบ 5 รูป (เป็นอย่างน้อย) จำพรรษาครบ 3 เดือนโดยไม่ขาดพรรษา จึงจะกรานกฐินได้ ถ้าวัดใดต้องการเงินอย่างเดียว, ต้องการทั้งกฐินและเงิน กฐินเดาะไม่เป็นกฐิน การ บอกบุญ โดยแจ้งวัตถุประสงค์ เชิญร่วมบุญกฐินเพื่อสร้างศาสนวัตถุ เช่น สร้างเจดีย์, โบสถ์, วิหาร, หอระฆัง ฯลฯกฐินเดาะ การแจ้งข่าวกฐินควรทำใบแจ้งทอดกฐิน พร้อมกำหนดการโดยเฉพาะ ไม่เกี่ยวกับเรื่องสร้างวิหารทานใด ๆ ถ้าวัดนั้นมีเจ้าภาพสร้างวิหารทานด้วย ควรทำใบแจ้งแยกต่างหาก แยกออกจากใบกฐิน กฐินเป็นกอง ๆ แจ้งว่ากองละเท่านั้นเท่านี้ เป็นกฐินเดาะ แต่ถ้าเจตนาเพื่อซื้อเครื่องกฐิน สามารถทำได้ การ ประกาศขอกฐิน โดยพระภิกษุในวัดรูปใดรูปหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นทางวาจาโดยตรง หรือโฆษณาทางสื่อต่างๆ เช่นวิทยุ, โทรทัศน์, หนังสือพิมพ์ ฯลฯ ให้มาทอดกฐินที่วัดตน กฐินนั้นเดาะไม่เป็นกฐินเพราะผิดพระวินัย มีผู้อ่านจำนวน : 5450 ครั้ง